PLC ย่อมาจาก “Programmable Logic Controller” เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมและตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรหรือระบบอัตโนมัติ โดยมักนำมาใช้ในโรงงานหรืออุตสาหกรรมเพื่อควบคุมการทำงานของเครื่องจักรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ซึ่งสามารถโปรแกรมใหม่ได้ตามความต้องการของงานที่ต้องการใช้งาน และมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการผลิตหรืองานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น การใช้ PLC เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมอย่างแพร่หลายเนื่องจากความเสถียร มีความต้องการในการบำรุงรักษาน้อยและสามารถใช้งานได้ในสภาวะที่มีความเสี่ยงต่อการชำรุดได้น้อย รวมถึงมีระบบการเชื่อมต่อที่หลากหลายและง่ายต่อการใช้งาน
พีแอลซีมีหลายประเภทตามความต้องการและการใช้งานต่าง ๆ แต่ประเภทหลัก ๆ สามประเภทที่พบบ่อยได้แก่:
1. พีแอลซีตัวอนุกรม (Sequential PLC)**: ใช้ในการควบคุมกระบวนการทำงานแบบต่อเนื่อง เช่น การผลิตในสายการผลิต หรือการควบคุมระบบที่มีการทำงานตามลำดับ
2. พีแอลซีตัวข้อความ (Programmable Text PLC)**: มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเขียนโปรแกรม ซึ่งสามารถใช้ภาษาโปรแกรมแบบข้อความได้ จึงมักนำมาใช้ในระบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
3. พีแอลซีตัวเหตุการณ์ (Event-Driven PLC)**: มีการทำงานตามเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในงานที่มีความสำคัญในการตอบสนองต่อเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ เช่น ระบบควบคุมการจราจรหรือระบบควบคุมการจ่ายน้ำในโรงแรมและตึกสูง
มีหลายยี่ห้อของ PLC ที่มีในตลาด บางตัวระบบเปิดตัวเพื่อการใช้งานทั่วไป และบางตัวเน้นใช้ในงานพิเศษหรือเฉพาะ ยี่ห้อที่รู้จักกันดีบางส่วนได้แก่:
- Siemens
- Allen-Bradley (Rockwell Automation)
- Mitsubishi Electric
- Omron
- Schneider Electric
- ABB
- Delta Electronics
- Panasonic
- Keyence
- Beckhoff
และยังมียี่ห้ออื่น ๆ อีกมากที่มีอยู่ในตลาด PLC โดยมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ
โครงสร้างพื้นฐานของ PLC ประกอบด้วยส่วนหลัก ๆ ดังนี้:
- Central Processing Unit (CPU): เป็นส่วนที่ดำเนินการคำสั่งต่าง ๆ และประมวลผลข้อมูล โดยมีหน่วยความจำ (Memory) เพื่อเก็บโปรแกรมและข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในการควบคุมระบบ
- Input Modules: ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สัญญาณเข้า เช่น เซ็นเซอร์ สวิตช์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อรับข้อมูลเข้าสู่ PLC
- Output Modules: ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สัญญาณออก เช่น วาล์ว มอเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อส่งสัญญาณควบคุมออกจาก PLC
- Power Supply: ใช้ในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับ PLC และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อ
- Communication Ports: ช่องทางสื่อสารที่ใช้ในการเชื่อมต่อ PLC กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วง
- Programming Device/Software: เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมสำหรับ PLC เพื่อกำหนดคำสั่งและการทำงานของระบบ
โครงสร้างนี้จะมีการเชื่อมต่อระหว่างส่วนต่าง ๆ ของ PLC เพื่อให้เกิดการทำงานร่วมกันในการควบคุมและดำเนินการต่าง ๆ ในระบบที่ใช้งาน
ในประเทศไทย ยี่ห้อ PLC ที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายรวมถึง:
- Siemens: Siemens เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย ด้วยความเสถียรของผลิตภัณฑ์และการให้บริการหลังการขายที่ดี
- Allen-Bradley (Rockwell Automation): Allen-Bradley เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีความนิยมในอุตสาหกรรมและโรงงานในประเทศไทย เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถใช้งานได้กับระบบที่ซับซ้อน
- Mitsubishi Electric: Mitsubishi Electric เป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในหลายๆ สาขาอุตสาหกรรม และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศไทย
- Omron: Omron เป็นยี่ห้อที่มีความรู้จักในการใช้งานในหลายๆ งานอุตสาหกรรม เช่น งานอุตสาหการ อุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
- Schneider Electric: Schneider Electric เป็นบริษัทที่มีสินค้าและบริการที่หลากหลายในด้านอิเล็กทรอนิกส์และระบบควบคุมอัตโนมัติ ซึ่งมีความนิยมในประเทศไทยเช่นกัน
ยี่ห้ออื่นๆ อาจมีการใช้งานในบางภาคหรืออุตสาหกรรมเฉพาะๆ อย่างเช่น Delta Electronics ที่มีการใช้งานมากในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าในประเทศไทย
โปรแกรมสำหรับ PLC สามารถเขียนได้ในภาษาโปรแกรมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อการควบคุมและการทำงานในอุตสาหกรรม เช่น Ladder Logic, Function Block Diagram (FBD), Structured Text (ST), Instruction List (IL), Sequential Function Chart (SFC) เป็นต้น แต่มักจะใช้ Ladder Logic และ Function Block Diagram ในการเขียนโปรแกรม PLC มากที่สุด เนื่องจากมันเป็นภาษาที่ใช้งานง่ายและเข้าใจได้ง่ายที่สุดสำหรับช่างไฟฟ้าและช่างจ่ายไฟฟ้าในการออกแบบและบริหารจัดการระบบควบคุม PLC ในสถานประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรม